Craft & DIY

Post Top Ad

Your Ad Spot

วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2565

ไอเดียการแต่งกางเกงยีนส์สไตล์โบโฮสุดฮิป

ไอเดียการแต่งกางเกงยีนส์สไตล์โบโฮสุดฮิป


           แฟชั่นโบโฮหรือแฟชั่นสไตล์โบฮีเมี่ยน มักเป็นแฟชั่นที่เน้นไปทางงาน 'ทำมือ' จากวัสดุธรรมชาติ บางส่วนมีความลุ่มล่ามกรุยกรายตามแบบชาวยิปซี และดัดแปลงให้บางส่วนให้มีความเรียบง่ายบ้าง บางจุดก็ตกแต่งเยอะแยะมากมายราวกับมีเท่าไรก็โถมใส่เข้าไปหมด แต่โดยรวมแล้วกลับเป็น 'ความเยอะ' อย่างมีสไตล์

           แฟชั่นโบฮีเมี่ยนมาจากการตัด ติด ปะ ปัก ชุน เนา และต่อ เพื่อซ่อมแซม รูปแบบจึงไม่ตายตัว ปัจจุบันแฟชั่นสไตล์นี้อาจจะไม่ถึงกับยิปซีจ๋า แต่แต่งพอให้มีกลิ่นอายนิดๆ มีศิลปะของการผสมผสานที่หลากหลาย คอนเทนต์นี้เป็นไอเดียการแต่งยีนส์เก๋ๆ สไตล์โบฮีเมี่ยนหลากหลายแบบ ซึ่งนอกจากจะทำใส่เองเท่ห์ๆ ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน ยังสามารถทำจำหน่ายได้ด้วยค่ะ

แบบที่ 1

มีลักษณะของความเป็นยิปซีของแท้ นั่นคือการใช้เทคนิคของการแพทช์เวิร์คและแอพพลิเก้ ซึ่งก็คือการตัดต่อปะชุน แบบแรกเป็นการนำขากางเกงยีนส์จากหลายตัวมาต่อให้เป็นกางเกงห้าส่วน เฉดสีที่เป็นโทนเดียวกัน ไล่จากอ่อนถึงเข้ม ส่วนแบบถัดมาถือการนำเอากระเป๋ากับสายเอี๊ยมมาเย็บติด และปักเพิ่มนิดหน่อยเพื่อให้ดูเหมือนว่ามันถูกดีไซน์มาแบบนี้แต่แรก 

แบบแรก ทำการปะผ้าจากด้านใน แล้วใช้ประโยชน์จากรอยขาด ทำให้เป็นกางเกงที่โชว์รอยขาดโดยไม่ต้องโชว์ผิวเนื้อ ในขณะที่แบบที่ 2 ปะผ้าจากด้านนอก พับริมเย็บอย่างสวยงาม แต่อาศัยลายผ้าและสีสันในการตกแต่ง ทั้งลายผ้าและลักษณะการปะติดหรือการแอพพลิเก้ที่เห็นจะให้ความรู้สึกถึงความเป็นญี่ปุ่นหน่อยๆ ถ้าคนที่ชอบกลิ่นอายสไตล์ญี่ปุ่น แนะนำให้ด้นแบบ Sashiko ทับลงไป ไม่ต้องสนใจว่าฝีเข็มจะเรียบร้อยสวยงามเหมือนช่างเย็บมาเอง ปล่อยให้เบี้ยวบ้างคดบ้างดูเก๋ไก๋แบบธรรมชาติมากกว่า



 

แบบที่ 2

การแต่งชายขากางเกงด้วยลายผ้า จากเดิมคือกางเกงขาเดฟหรืออาจจะเป็นขากระบอกมาก่อน แต่แยกตะเข็บออกแล้วเพิ่มเศษผ้าเข้าไปก็จะได้กางเกงขากระดิ่งสไตล์โบฮีเมี่ยน จะเห็นว่าแบบแรกนั้นมาเต็มสูตร เพราะใช้ผ้าปักอินเดีย จึงยิ่งให้ความรู้สึกแบบยิปซีดั้งเดิม ถ้าชอบแบบนี้ก็ลองหาผ้าลายพื้นเมืองมาแต่งดู หรืออยากได้ผ้าอินเดียแบบนี้บ้าง แหล่งที่ใหญ่และเยอะ แนะนำให้ไปเลือกที่พาหุรัดค่ะ เพียบ! ส่วนแบบที่ 2 เป็นผ้าโปร่งปัก หาซื้อยากหน่อย ต้องทำเอง แต่กำลังอินเทรนด์อยู่ในช่วง 1-2 ปีมานี้ ที่บรรดามือปักลุกขึ้นมาปักลายบนผ้าโปร่งตามเสื้อผ้ายี่ห้อดังแบรนด์หนึ่ง พอมาแต่งอยู่ที่ยีนส์สี่ส่วนจนดูเป็นขากระดิ่งห้าส่วนไปในทันที เป็นดีไซน์ที่น่ารักดีและให้ความรู้สึกแพงเหมือนกางเกงแบรนด์ดังของต่างประเทศ 

ส่วนดีไซน์นี้ ถ้าคุณมีกางเกงผู้ชายไซส์ยักษ์สักตัว แค่เอาเองเข้าหน่อย ตัดสี่ส่วนพับครึ่งแล้วแต่งด้วยผ้าฉลุลายลูกไม้ เป็นความต่างที่แมทช์กันดี เซอร์และหวาน อีกด้านใช้รูปทรงที่าสวยงามของยีนส์แบบเดิมที่เป็นอยู่ แค่แต่งลูกไม้เข้าไปเท่านั้น
 


 

แบบที่ 3

นี่เป็นอีกแบบที่จะทำให้กางเกงยีนส์สไตล์เรียบร้อยดูเก๋ไก๋ทันสมัยขึ้น ด้วยการตกแต่งชายขาเพียงเล็กน้อย แบบแรกใช้ส่วนของขากางเกงทำชายครุย ซึ่งเป็นลักษณะที่ของแฟชั่นแบบชาวยิปซี แบบบน (ขวา) ใช้ผ้าพื้นเมืองแต่งพู่เย็บติดเท่านั้น ส่วนแบบล่างขวา สวยงามด้วยเทปปอมปอมเส้นใหญ่ ซึ่งทอลวดลายสีสันมาพร้อม เย็บติดก็เสร็จแล้ว หาซื้อได้ตามอินเตอร์เน็ต แต่ถ้าอยากเลือก อยากเห็นด้วยตาก็ต้องไปแล่งขายผ้าอย่างสำเพ็ง-พาหุรัดค่ะ มีให้เลือกมากทีเดียว



 

แบบที่ 4 

ดูเผินๆ อาจคล้ายแบบที่ 3 คือการแต่งชายกางเกงยีนส์ ความต่างก็คือการปักบนกางเกงยีนส์ แบบแรกนี่ให้ความเป็นโบโฮสูงหน่อย เน้นที่งานฝีมือ ส่วนแบบที่ 2 น้อยแต่มาก คือดูเหมือนปักบนพื้นที่เล็กๆ แต่ใช้การครีเอทมากทีเดียว ทั้งการปักเลื่อม ปักดิ้น ใส่ซิป และเพนต์ลายที่ริมชาย



แบบที่ 5

เป็นความเท่ห์เก๋น่ารักตามแบบยิปซีมากๆ มีอะไรก็ขนมาติดไว้เต็ม ทั้งโลหะ เพชร พลอย พลาสติก แต่กลับลงตัวได้อย่างน่าทึ่ง แอดมินคิดว่ามันเป็นความรกแบบน่ารัก ดูก็รู้ว่าเป็นผลงานบนแคทวอร์ค ฉะนั้นย่อมไม่ธรรมดา นี่เป็นผลงานของ Dolce & Gabbana (Dolce and Gabbana spring 2015) ตั้งแต่เมื่อสามปีก่อน แต่เราสามารถนำไอเดียสุดฮิปนี้มาเป็นอินสไปเรชั่นของเราได้ 

ส่วนแบบล่างก็เป็นความน้อยแต่มากอีกแบบหนึ่ง นั่นนิดนี่หน่อย เรียบหรูดูดี 




แบบที่ 6

นี่ก็เป็นอีกแบบของหนึ่งในความเป็นยิปซี นั่นคือการใช้วิธีย้อมและกัดสีมาสร้างสรรเป็นลวดลายผ้า โดยเฉพาะกับยีนส์ขาม้าขากระดิ่ง อุปกรณ์หลักที่ใช้สำหรับการแต่งยีนส์แบบนี้ก็คือ แม่พิมพ์หรือตัวปั๊ม ซึ่งมีทั้งแบบไม้และโลหะ ขายเป็นชิ้น ลายเล็กลายใหญ่ นอกจากแม่พิมพ์ก็มีแผ่นสเตนซิล ซึ่งปัจจุบันมีหลากหลายลวดลายให้เลือกเช่นกัน แต่หากใครมีฝีมือทางด้านจิตรกรรมก็ลอง 'เขียนเทียน' วาดลวดลายด้วยตัวเองก็ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน ตัวเดียวในโลกที่จะหาซื้อที่ไหนไม่ได้อีก น่าลองใช่มั้ยล่ะคะ ^_^



          ...เคยมีอยู่ 5-6 ครั้ง แอดมินได้มีโอกาสไปสัมภาษณ์ไอดอลระดับประเทศซึ่งมีทั้งนักร้อง พิธีกร และนักธุรกิจที่รัก 'งานทำมือ' รวมถึงอาจารย์ด้านงานฝีมือที่มีชื่อเสียง สิ่งหนึ่งท่านเหล่านั้นกล่าวตรงกันก็คือ... 

          แฟชั่นกับงานฝีมือนั้นเหมือนกันตรงที่ 'ไม่เคยเอ๊าท์' แต่ความมากมายหลายหลายของรูปแบบบวกกับความเป็นศิลปะ ทำให้มันต้องหมุนวนไปและเวียนกลับมาตามกระแส แต่ไม่เคยหายไป อะไรที่คุณอาจคิดว่ามันเชยในวันนี้ พรุ่งนี้มันก็กลับมาฮิตได้อย่างที่คุณอาจไม่ทันรู้ตัวดังนั้นเวลาที่เราทำงานฝีมืออะไรก็ตามเนี่ย ไม่จำเป็นต้องมาคิดมากว่ามันจะเชย จะเอ๊าท์ ใครจะหัวเราะเยาะหรือเปล่า ขอแค่เราชอบ ก็จะมีอีกหลายคนที่ชอบเหมือนๆ เรา 

          เห็นได้ง่ายๆ จากแฟชั่นสไตล์โบฮีเมี่ยน มาจากยิปซีที่เป็นเพียงชาวเร่ร่อนในอดีต ปัจจุบันแฟชั่นสไตล์นี้ก็ยังคงอยู่ และได้รับความนิยมอยู่เสมอ

        'ทำมือ' ให้สนุกนะคะ ^^

-------------------------------------------
cr. FreePeople, Shabby Shack, TC Canan Fikircioğlu, Dolce & Gabbana     


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Top Ad

Your Ad Spot

หน้าเว็บ